Home / Pump Guru
Troubleshooting: Liquid Ring Pumps [24 December 2021]
ในบทความครั้งนี้
เราจะมากล่าวถึงปัญหาและการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นของปั๊มสุญญากาศแบบวงแหวนน้ำ (Liquid Ring Vacuum Pump) ซึ่งปัญหาที่พบเจอส่วนใหญ่ก็จะได้แก่ คาวิเตชั่น (Cavitation),
ปัญหาเกี่ยวกับแบริ่ง (Bearing
Problems) และ ปั๊มทำสุญญากาศไม่ได้ (Pump
not Producing Correct Vacuum)
ปรากฏการณ์คาวิเตชั่น (Cavitation
Effect)
ปรากฏการณ์คาวิเตชั่นสามารถตรวจสอบได้จากการฟังเสียงที่เหมือนกับมีก้อนกรวดหรือเม็ดทรายกลิ้งไปมาอยู่ภายในตัวปั๊ม
ในปั๊มสุญญากาศแบบวงแหวนน้ำจะเริ่มเกิดคาวิเตชั่นเมื่อแรงดันไอ (Vapor Pressure) ของของเหลวที่เป็นวงแหวนนั้นเข้าใกล้แรงดันดูด
(Suction Pressure) ที่ปั๊มทำได้ สิ่งที่เกิดขึ้นคือ
ของเหลวนั้นจะเริ่มเดือดและเกิดเป็นฟองอากาศ
ฟองอากาศเหล่านี้เมื่อแตกออกจะเกิดเป็นหลุมสุญญากาศที่ซึ่งถูกแทนที่ด้วยของเหลวรอบ
ๆ อย่างรวดเร็วเกิดเป็นคลื่นกระแทก หรือ Shock Waves ขึ้นมาทำให้ปั๊มเสียหายได้นั่นเอง
รูปแสดงปรากฏการณ์คาวิเตชั่นขณะที่ฟองอากาศกำลังแตกออก
โดยปรากฏการณ์นี้ทำให้ชิ้นส่วนภายในของปั๊มเสียหาย เป็นรูพรุน และชิ้นส่วนที่สึกก่อนเวลาอันควนเหล่านี้ก็นำไปสู่การทำสุญญากาศได้น้อยลงด้วยนั่นเอง
รูปเปรียบเทียบระหว่าใบพัดใหม่ (ซ้าย) และใบพัดจากปั๊มที่เกิดคาวิเตชั่น (ขวา)
ในการที่จะป้องกันการเกิด Cavitation
สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่ควรจะทำ:
-
ลดอุณหภูมิของวงแหวนของของเหลวในตัวปั๊ม
สิ่งนี้จะทำให้ความดันไอของของเหลวนั้นลดลงไปด้วย และช่วยไม่ให้ของเหลวนั้นระเหย
จำเอาไว้ว่าคาวิเตชั่นจะเกิดขึ้นเมื่อวงแหวนของของเหลวเข้าใกล้แรงดันด้านดูดของปั๊ม
-
ใช้ของเหลวอื่นในการสร้างวงแหวน
ถ้าหากว่าของเหลวที่นำมาใช้มีความดันไอต่ำ อย่างเช่น น้ำมัน หรือ ethylene glycol ก็จะทำให้ปั๊มสามารถทำงานที่ความดันสัมบูรณ์
(Absolute Pressure)
ต่ำลงได้โดยที่ไม่เกิดคาวิเตชั่น
แต่อย่างไรก็ตามควรจะต้องมีการตรวจสอบขนาดของมอเตอร์ด้วยว่ามีความเหมาะสมหรือไม่
หากเปลี่ยนของเหลวที่ใช้เป็นอย่างอื่นนอกเหนือจากน้ำ
ชุด Oilsys ของ PompeTravaini s.p.a. ซึ่งใช้น้ำมันแทนน้ำในการดึงสุญญากาศ
-
เพิ่มแรงดันด้านดูดของปั๊ม
สามารถทำได้โดยการปล่อยให้อากาศเข้าไป (ผ่านทาง Vacuum Relief
Valve, Vacuum Regulator หรือ Anticavitaion Valve ) โดยรักษาปริมาณอากาศที่เข้าไปให้แรงดันด้านดูดของปั๊ม
ไม่เข้าใกล้ความดันไอของวงแหวนของเหลว
ปั๊ม Liquid Ring Vacuum Pump รุ่น TRVX650 พร้อมติดตั้ง Vacuum Relief Valve
-
เพิ่มอัตราการจ่ายของเหลว [gpm] ให้กับวงแหวนของเหลว
ก็จะช่วยให้สามารถควบคุมหรือลดอุณหภูมิของของเหลวภายในปั๊มได้
ลดผลของอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นจากการทำงานของปั๊ม
นั่นหมายความว่าความดันไอของวงแหวนของเหลวก็จะลดลงหรือไม่เพิ่มขึ้น
เพียงพอที่จะไม่ทำให้ตกไปอยู่ในช่วงที่ทำให้เกิดคาวิเตชั่น
-
ติดตั้งปั๊มร่วมกับอุปกรณ์ช่วยเพิ่มแรงดันอย่างเช่น Gas Ejector หรือ Rotary lobe blower
เพื่อช่วยให้แรงดันด้านดูดของตัวปั๊มไม่เข้าใกล้ความดันไอของวงแหวนของเหลว
ชุด HydroTwin ของ PompeTravaini s.p.a. ที่ประกอบชุด blower เข้ากับ LRVP เพื่อให้ดึงสุญญากาศได้ลึกขึ้น
ในการตรวจสอบการเกิดคาวิเตชั่นนั้น สามารถตรวจสอบได้จากนำค่าแรงดันที่ปั๊มทำได้ที่ทางด้านดูด
รวมถึงอุณหภูมิของของเหลวที่จ่ายให้กับปั๊มเพื่อสร้างวงแหวนของเหลว
โดยทั่วไปแล้วสามารถประมาณได้โดยคร่าว ๆ
ว่าอุณหภูมิของของเหลวที่อยู่ในตัวปั๊ม (วงแหวนของเหลว) นั้น
จะมีอุณหภูมิสูงกว่าอุณหภูมิของเหวลที่จ่ายเข้าไปอยู่ 10 ถึง 15 °F (~ 5 ถึง 8 °C) ขึ้นอยู่กับลักษณะการออกแบบของปั๊ม
นำค่าที่ได้ไปเปรียบเทียบกับตารางคุณสมบัติของของเหลวเพื่อหาค่าความดันไอของของเหลวที่อุณหภูมินั้น
(Steam Table สำหรับน้ำ) ถ้าหากว่าค่าของแรงดันด้านดูดของปั๊มกับความดันไอของของเหลวต่างกันอยู่
5 mmHg [6.67 mbar] หรือต่ำกว่า หมายความว่าปั๊มกำลังทำงานอยู่ในช่วงของปรากฏการณ์คาวิเตชั่น
ตารางแปลงหน่วยและหาอุณหภูมิอิ่มตัวของน้ำ สำหรับตรวจสอบการระเหยของน้ำ (ลากเส้นตามแนวนอนจากแรงดันที่ปั๊มทำได้ขณะนั้น ไปยังแถว Saturation Temperature of Water เพื่อดูอุณหภูมิที่น้ำเริ่มระเหย)
https://www.pompetravaini.com/media/editor/ITV1-unit%C3%A0-di-misura.pdf
หรือ
Steam Table
https://thermopedia.com/content/1150/
เพื่อให้แน่ใจยิ่งขึ้นว่าปั๊มของเรามีการเกิดคาวิเตชั่นจริง ให้ลองค่อย ๆ
ปล่อยอากาศเข้าไปในระบบ ถ้าหากว่าเสียงแกรก ๆ ในปั๊มหายไป
นั่นแปลว่ามีการเกิดคาวิเตชั่นขึ้น และควรจะมีการจัดการตามวิธีการที่ได้กล่าวไปแล้วเพื่อป้องกันปั๊มของเราเอง
ปัญหาแบริ่ง (Bearing
Problems)
โดยทั่วไปแล้วปั๊มสุญญากาศแบบวงแหวนน้ำจะเกิดการสั่นที่น้อยมาก
การประกอบชุดหมุนของปั๊มให้เยื้อยงศูนย์จากจุดศูนย์กลางของเสื้อปั๊ม
ในขณะที่วงแหวนของของเหลวที่ก่อตัวขึ้นจะก่อตัวรอบจุดศูนย์กลางของเสื้อปั๊ม
ซึ่งปกติแล้วจะประกอบกันให้มีการหมุนอย่างสมดุล ทำให้สามารถลดความรุนแรงของการสั่นไปได้
ปั๊มวงแหวนน้ำโดยทั่วไป จะมีค่าการสั่นอยู่ที่ 2 ถึง 3 mm/s เท่านั้น
ถ้าหากว่าบริเวณห้องแบริ่ง (Bearing
Housing) มีความร้อนเมื่อสัมผัส หมายถึงปัญหาที่บริเวณแบริ่ง อย่างเช่น
อาการสึกจากการใช้งานทั่วไป หรือของเหลวจากวงแหวนของเหลวมีการรั่วไหลผ่านชุดซีลเพลา
และ Lip seal
ถ้าหากว่ามีร่องรอยการกัดกร่อนบริเวณแบริ่ง หรือมีความชื้นในจารบี
ปัญหาก็มาจากความผิดปกติที่บริเวณชุดซีลเพลา (Mechanical Seal หรือ Gland
Packing) หรืออาจจะที่บริเวณ Lip Seal
ด้วย (Oil Seal, Flinger,
etc.) ควรทำให้มั่นใจว่าชุดซีลเพลาได้รับการหล่อลื่นและมีการระบายความร้อนอย่างเหมาะสม
และมีการอัดน้ำมันจารบีอย่างเหมาะสมที่แบริ่งตามช่วงเวลาการซ่อมบำรุง
แบริ่งที่มีการสึกหรือเสียหายควรได้รับการแก้ไขในทันที
เนื่องจากว่าเป็นอุปกรณ์สำคัญในการรับชุดเพลาของปั๊ม หากมีการเสียหายก็จะทำให้ชุดเพลาทั้งหมดล่วงลงและทำให้ชุดหมุนทั้งหมดขูดกับชิ้นส่วนภายในปั๊ม
ถึงเวลานั้นการเลือกซื้อปั๊มตัวใหม่ก็เป็นทางออกที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
ปัญหาอีกสิ่งหนึ่งที่สามารถทำให้ชิ้นส่วนภายในตัวปั๊มเสียหายได้คือ
ถ้าหากว่าปั๊มเริ่มทำงานโดยที่ภายในเต็มไปด้วยของเหลวเกินกว่าครึ่งหนึ่งของตัวปั๊ม
จะทำให้เพลาของปั๊มทำงานหนักและรับค่าความเครียดที่ไม่เหมาะสม
ส่งผลให้เกิดความเสียหายที่ร้ายแรงได้
ปั๊มควรจะเริ่มทำงานโดยที่มีของเหลวอยู่ภายในที่ระดับของเส้นผ่านศูนย์กลางของปั๊ม
หรือประมาณครึ่งหนึ่งของห้องปั๊มเท่านั้น และที่วาล์วทางด้านจ่ายของระบบเปิดอยู่ด้วย
ยอย หรือ Coupling ก็ควรจะถูกตรวจสอบค่า Alignment และปั๊มควรถูกยึดขาอย่างเหมาะสม
การทำ Alignment ที่ไม่ดีหรือการยึดขาปั๊มที่ไม่ได้มาตรฐานก็ส่งผลให้ปั๊มเกิดการสั่นที่ไม่ต้องการได้
นำไปสู่การสึกของชิ้นส่วนภายในปั๊มและความเสียหายของแบริ่งก่อนเวลาอันควรได้
ปั๊มไม่สามารถทำสุญญากาศได้ (Pump Not Producing Correct Vacuum)
ปัญหานี้สามารถเกิดจากปัญหาการรั่วเข้าของอากาศจำนวนมากสู่ระบบ
เราควรเริ่มจากตรวจสอบแรงดันด้านดูดของปั๊มที่ทำได้ จากนั้นก็ตรวจสอบอุณหภูมิและอัตราการไหลของของเหลวที่จ่ายให้กับตัวปั๊ม
รวมถึงตรวจสอบว่าไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ของระบบที่ปั๊มกำลังทำงานอยู่
ถ้าหากไม่มีสิ่งผิดปกติใด ๆ
ก็เป็นไปได้ว่าอาจเกิดการรั่วเข้าของอากาศจำนวนมากที่ทำให้ปั๊มไม่สามารถทำสุญญากาศได้
ถ้าเป็นไปได้ วัดปริมาณอากาศรั่วเข้าที่ออกมาจากปั๊มสุญญากาศ ด้วย Rotameter หรือทำการทดสอบ Vacuum Drop Leak Test ซึ่งจะช่วยบอกว่าปั๊มของเรารับอากาศเข้ามาเท่าไหร่
ถ้าหากว่าสาเหตุไม่ได้เกิดจากการที่อากาศรั่วเข้าในปริมาณมาก
และไม่มีการเปลี่ยนแปลงของระบบ ควรจะทำการตรวจสอบชิ้นส่วนอุปกรณ์ภายในตัวปั๊ม
ถ้าหากค่า Clearance
มีการเพิ่มขึ้นอันเนื่องมาจาก Cavitation,
การกัดกร่อน (Corrosion) หรือ การสึกกร่อน (Erosion) ก็จะทำให้เกิดการไหลย้อนกลับของแก๊สได้
(Internal Slippage) นั่นหมายความว่า แทนที่แก๊สที่ปั๊มดูดเข้ามาจะถูกผลักออกจากตัวปั๊มไป
แก๊สเหล่านี้กลับสามารถเล็ดรอดผ่านทางช่องว่างที่เกิดจากการสึกของชิ้นส่วนต่าง ๆ
กลับไปทางด้านดูดของปั๊มแทน
ทำให้ปั๊มดึงอากาศได้น้อยลงส่งผลต่อการทำสุญญากาศของปั๊ม
ปัญหาต่าง ๆ
ที่กล่าวมาในบทความนี้ล้วนเป็นปัญหาที่สามารถตรวจสอบได้บนพื้นที่การทำงานจริง ๆ
หากรู้ว่าอะไรที่ทำให้เกิดปัญหาเหล่านั้นขึ้น
ก็จะยิ่งทำให้สามารถวิเคราะห์และแก้ไขปัญหาเล่านั้นได้อย่างรวดเร็วและทันท่วงที
ก่อนที่จะนำไปสู่ความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
เรียบเรียงและจัดทำโดย; อานนท์
อ้างอิง; Pump Maintenance
and Reliability, Troubleshooting Liquid Ring Pumps, Joe Allasso